ริวจิน-ริวเซ
"อุ้ย...นั่นท่านริวจินนี่....สง่างามเหลือเกิน ทั้งท่วงท่าและมรรยาท"
เทพธิดาสาวองค์หนึ่งเอ่ยบอกกับสหายหญิงคนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ พลางจับจ้องมองดูเทพบุตรรูปงามที่เดินมายังตำหนักส่วนพระองค์โดยมีอนุชานามริวเซตามมาห่างๆ....
"ว้าย...นั่นท่านริวเซอนุชาแท้ๆของท่านริวจินนี่....ไม่ว่าดูเยี่ยงไร ก็หาความเหมือนกันไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว...."
เทพธิดาหญิงองค์เดิมกล่าว...ริวเซมองดูกลุ่มเทพธิดาที่ยืนซุบซิบกันอยู่หน้าตำหนักอย่างขุ่นข้องหมองใจ....ไม่ว่าเวลาผ่าน
ไปนานเท่าไร คำครหาในการเปรียบเทียบเรื่องเขากับริวจิน ผู้เป็นเชษฐาไม่เคยลบเลือนไปได้สักครั้งเดียว....
ทั้งๆที่พวกเขาเป็นฝาแฝดแต่กลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงทั้งสีผม และ สีตา ริวจินมีผมขาวดุจหิมะ นัยน์ตาทองดุจอำพัน สวมผ้าสี
ขาวเนื้อละเอียด แต่เขากลับมีผมสีดำดุจไหม นัยน์ตาสีเงินดุจเหล็กกล้า สวมผ้าสีดำเนื้อหยาบ.... ความสง่างามจึงตกไปอยู่ที่
พระเชษฐาแต่เพียงผู้เดียว....ช่างไม่ยุติธรรม
"อย่าไปใส่ใจกับคำพูดของสตรีเลยริวเซ"
ริวจินปลอบโยนอนุชาอย่างบริสุทธิ์ใจ....เพราะกลัวริวเซจะคิดมากในเรื่องปมด้อยเหล่านี้
"เจ้าก็ต้องพูดได้สิ ในเมื่อเจ้ามันดีเลิศทุกประการต่างจากข้าโดยสิ้นเชิง"
ริวเซเอ่ยพลางเชิ่ดหน้าเข้าตำหนักไป...ริวจินถอนหายใจเล็กน้อยอย่างระอากับนิสัยเอาแต่ใจของน้องชาย.....
................
อะไรๆก็ริวจินๆ ใช่สิ!!!เจ้านั่นมันดีกว่าข้าทุกอย่างใครๆถึงได้สรรเสริญมัน ริวเซครุ่นคิดอย่างเคืองแค้นพลางทอดกายลงบน
อาสน์ไม้สีดำที่หยาบกระด้าง...พลางมองดูอาสน์สีขาวที่อยู่เคียงข้างซึ่งทำมาจากไม้เนื้อละเอียด....ใช่ว่าเขาจะชอบของ
พรรค์นั้น แม้ดูดีมีราคา แต่ก็้ไม่ปรารถนาได้มาครอบครอง...เพราะสีขาวที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์มันช่างน่าสะอิดสะเอียนสิ้นดี....
ไม่มีทางที่ทุกคนจะดีงามได้แบบนั้น...ต่อให้เป็นเทพก็เถอะ...เขานี่แหละที่จะกำจัดความน่ารังเกียจนั้นเสียเอง
"เจ้านี่ทำหน้าบึ้งตึงได้ตลอดเวลาเลยนะ"
ริวจินทักอย่างอารมณ์ดี ก่อนตามมานั่งยังอาสน์สีขาวข้างๆ บุรุษนัยน์ตาสีเงินฉุนกึกในทันที
"แล้วเจ้ามายุ่งอะไรด้วยล่ะ"
"อะไร...ทำไมต้องโมโหขนาดนั้น.....มิน่า...ใครๆถึงได้ไม่อยากอยู่ใกล้เจ้า"
ริวจินตอบอนุชาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย....โดยที่ไม่รู้เลยว่าริวเซโกรธเคืองมากแค่ไหน.....
"เจ้าจะไปเข้าใจอะไรเล่า!!!"
บุรุษนัยน์ตาสีเงินผลักอกเชษฐาอย่างแรง จนริวจินล้มลงไปกองที่พื้น บุรุษนัยน์ตาสีทองค่อยๆยันกายขึ้นมาด้วยความจุกพลางโวยวายอย่างเหลืออด
"เป็นอะไรของเจ้าเนี่ย...ข้าไม่ยุ่งด้วยก็ได้"
นัยน์ตาสีทองมองดูอนุชาที่กริ้วโกรธอย่างไม่เข้าใจพลางจะหลีกหนีออกไปเพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่ดูเหมือนว่า...ริวเซจะไม่ต้อง
การให้เป็นเช่นนั้น...
"เจ้าจะลุกหนีไปไหน"
"ข้าไม่อยากมีเรื่องกับเจ้า...."
"เจ้าขี้ขลาด!!! แสร้งทำตัวเป็นคนดี ที่แท้มันก็แค่คนขี้ขลาด"
ริวเซตะโกนดังก้องห้องโถง ผู้เป็นเชษฐาหยุดชะงักแล้วหันมามองอย่างขุ่นเคือง
"ข้าไม่ได้ขี้ขลาด แต่ข้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสวนาหรือวิวาทกับคนอันธพาลอย่างเจ้า"
อันธพาลเทพผู้ถูกกล่าวหาดูจะพิโรธโกรธาทันทีเมื่อถูกตราหน้าเช่นนั้น..... เจ้าคนดีจอมปลอม.... ความโกรธแค้นของเจ้ามันสุมอยู่ ณ ที่ใดทำไมไม่ระบายออกมาล่ะ...พลัวะ!!!กำปั้นของริวเซต่อยเข้าไปที่หน้าของพระเชษฐาทันที...ริวจินเซถลาอย่างไม่ทันตั้งตัว ริวเซก็ปรี่เข้าไปกระชากเสื้อคลุมสีขาวเข้ามาหาแล้วพูดใส่หน้าริวจินในระยะประชิด....
"ต่อยข้ากลับมาสิริวจิน.....เจ้าจะทนเป็นคนดีได้ถึงเมื่อไร"
ริวเซท้าทายหมายจะให้พี่ชายได้แสดงพฤติกรรมป่าเถื่อนออกมา แต่ทว่าริวจินกลับเอื้อนเอ่ยตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
"จะให้ข้าต่อยน้องตัวเองได้อย่างไร...เจ้ากำลังยั่วยุให้ข้ามีน้ำโห...ซึ่งข้าไม่ต้องการ พฤติกรรรมหยาบช้าเช่นนั้นไม่สมควร
เรียกว่าเทพ ตัวเจ้าก็เป็นเทพ เหตุใดจึงไม่ประพฤติตัวให้สมกับตำแหน่งนั้น"
บุรุษนัยน์ตาสีเงินมองดูเชษฐาอย่างงุนงง ไม่มีอะไรที่จะทำลายสีขาวตรงหน้าได้เลยเหรอ...ริวจินยิ้มที่มุมปากอย่างเยาะเย้ยในการกระทำของอนุชา....มือที่จับเสื้อคลุมสีขาวไว้นั้นสั่นระริกโดยไม่รู้จะระบายออกทางไหน...
"สีขาวกับสีดำไม่มีวันเข้ากันได้หรอกนะ....ทำไมเจ้าไม่กลับตัวมาเป็นสีขาวล่ะ"
"หยุดพล่ามได้แล้ว!!! ก็ได้....ในเมื่อสีขาวกับสีดำไม่มีวันเข้ากันได้...ข้าก็จะผสมให้ด้วยตัวของข้าเอง"
พูดจบริวเซก็กระชากเจ้าของเสื้อคลุมสีขาวนั้นเข้ามาจูบอย่างดุเดือด..... นัยน์ตาสีทองเบิกกว้างอย่างตกใจ ลิ้นของริวเซก็โลมเลียใส่เข้าไปในช่องปากของเขาอย่างรวดเร็ว มือทั้งสองข้างของเทพผู้พี่พยายามต้านทานผลักอนุชา แต่กำลังนั้นกลับมลายหายสิ้น
เมื่อลิ้นนั้นพยายามซุกไซ้เข้าไปทั่วทุกสัดส่วนของปาก.... ริวจินพยายามต่อต้านแล้วสะบัดหนีจนฟันของเขากระทบกับลิ้นของริวเซ รสเลือดแผ่ซ่านยิ่ทำให้ริวเซรู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมากว่าเดิม....
เขาถอนริมฝีปากจากริวจินแล้วผลักเชษฐาลงไปที่อาสน์สีขาวอย่างแรง ก่อนปรี่เข้าไปคร่อมร่างที่พยายามผละหนี ริวจินดันร่างของน้องชายออกอย่างสุดความพยายาม จนทำให้ริวเซรู้สึกรำคาญ เขาคร่อมทับร่างของริวจินเอาไว้ พลางใช้มือนึงดันอุระริวจินให้ติดกับอาสน์ มืออีกข้างก็ถอดเสื้อคลุมสีดำออกจนเหลือแต่ร่างเปล่าเปลือย พลางกระชากเชือกผ้าที่รัดเอวด้านในออกมา ก่อนมัดมือทั้งสองข้างของริวจินจนแน่น
"ปล่อยข้านะ...เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร"
ริวจินโวยวาย แต่ริวเซกลับใส่ใจไม่...เมื่อสองมือของฝ่ายตรงข้ามถูกพันธนาการ... ริวเซก็ได้ทีใช้ริมฝีปากคลอเคลียที่ใบหูของพี่ชาย.... ลมหายใจอุ่นๆรดเข้าไปที่ใบหูของริวจินเป็นระยะในขณะที่ลิ้นของริวเซก็ไล่เลียใบหูของเขาจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายอุ่นๆ.... เทพผู้พี่แม้อยากต้านทานแต่ก็ไม่อาจทำได้.....ริวเซใช้ปลายลิ้นลากยาวไปทั่วลำคอขาวเนียนอย่างรุนแรง ใช้ลิ้นดุนผิวเนื้อบางละเอียดจนเกิดรอยจูบสีคล้ำเลือด........
เสื้อคลุมสีขาวถูกกระชากออกอย่างแรงจนขาดวิ่น ริวเซมองดูลำตัวอ้อนแอ้นของเชษฐากับอุระที่ผึงผายอย่างปรารถนาที่จะกลืนกิน....เขาโถมตัวลงซบอกพลางใช้สองมือลูบไล้ป่ายไปตามแผ่นอกนั้น ลิ้นยังคงไล่เลียเล้าโลมอารมณ์ของคนเบื้องล่างมาจนถึงยอดอกสีชมพู...... บุรุษนัยน์ตาสีเงินใช้ฟันขบเบาๆจนบุรุษผู้พี่สะดุ้งเฮือกเล็กน้อย...
"อ่ะ....."
เสียงนั้นเหมือนยั่วยวนอารมณ์ของคนเบื้องบนให้พลุ่งพล่านกว่าเดิม ริวเซใช้มือข้างนึงล้วงเข้าไปใต้เสื้อคลุมสีขาวที่ขาดวิ่นเพื่อสัมผัสกับบางสิ่งที่ตื่นตัวของริวจิน....
"ยะ...อย่านะ"
ริวจินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า..... ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ริวเซใช้มือลูบไล้ไปตามสิ่งนั้นอย่างรุนแรงจนมันตื่นตัวเต็มที่ น้ำหล่อลื่นถูกปล่อยออกจากสิ่งนั้นเป็นระยะๆ เพื่อบอกของอารมณ์ผู้ถูกกระทำ ริวเซก้มลงไปจูบที่สิ่งนั้นแล้วใช้ลิ้นของเขาสัมผัสกับรสเนื้อ.... ก่อนจับใส่เข้าปากแล้วรูดอย่างเร็วเป็นจังหวะ....
"อ๊ะ...อา....ริวเซ...."
เสียงครวญครางของผู้เป็นพี่ยิ่งทำให้ริวเซได้ใจ เขาเพิ่มความเร็วเข้าไปอีกนิดหน่อยในขณะที่มือก็ช่วยรูดสิ่งนั้นไปด้วย.... ไม่นานนัก ร่างของริวจินก็เกร็งจนสุดแรง เมือกสีขาวขุ่นถูกปล่อยเข้าปากของริวเซที่พร้อมรับแล้วกลืนกินมันเข้าไปอย่างไม่รังเกียจ....
พระเชษฐาหายใจติดขัดแต่สุขสมจนบอกไม่ถูก....ริวเซมองดูร่างอ่อนแรงแล้วไม่รีรอที่จะจับริวจินคว่ำลง
"จะ...เจ้าจะทำอะไรน่ะ"
ริวจินตะโกนถามสุดเสียง....เสียงหัวเราะในลำคอของน้องชายดูหื่นกระหายอย่างบอกไม่ถูก ริวจินรู้สึกถึงท่อนเนื้ออุ่นๆแข็งๆที่ป่ายไปตามช่วงหลังจนหยุดที่ปากทวาร...
"ข้าจะเป็นคนผสมสีเอง"
ริวเซพูดก่อนดันสิ่งนั้นเข้าไปอย่างรวดเร็ว...
"อึ่ก!!!อ๊ะ...โอ้ย...เจ็บ...อย่า...หยุดเถอะ"
คำขอร้องไม่เป็นผล ริวเซยิ่งรุกล้ำใสเข้าไปจนสุดก่อนโยกลำตัวจนร่างของริวจินสั่นไหว.... เสียงลมหายใจที่หอบถี่ๆดูเหมือนกำลังเหนื่อยและอ่อนแรงแต่ก็ฟังดูเหมือนมีอารมณ์ร่วมไปด้วย ริวเซโน้มตัวลงมากอดร่างของคนสีขาวจากด้าหลังพลางใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าอก....ใบหน้าซบกับแผ่นหลัง ในขณะที่ท่อนล่างยังคงโยกเป็นจังหวะ....ยิ่งได้สัมผัสกายของผู้เป็นพี่..ริวเซก็
ยิ่งสุขสม เขาโยกตัวจนสุดแรงก่อนปล่อยน้ำแห่งความสุขออกมาพลางฟุบตัวลงไปทับคนด้านล่างอย่างไร้เรี่ยวแรง....
การผสมสีในครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะออกมาดีหรือไม่.....แต่อย่างน้อยสีขาวกับสีดำก็ได้รวมเป็นสีเทาเรียบร้อยแล้ว.....