คลากชายหนุ่มผมสีดำสลวยเหลือบนัยน์ตาสีน้ำตาลไปมองยังค๊อฟฟี่ช็อฟข้างทางแห่งหนึ่งในขณะที่ตนกำลังขับรถอยู่ กระจกใสหน้าร้านทำให้เห็นชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ในมุมสงบได้อย่างชัดเจน เขามีผมสีดำ นัยน์ตาสีฟ้า ท่าทางดูเงียบขรึม แต่ก็ช่างยั่วอารมณ์สนุกของเขาเหลือเกิน คลากคิดได้ดังนั้นจึงได้จอดรถยังข้างทางก่อนตรงดิ่งเข้าไปในร้านกาแฟอย่างรวดเร็ว
บรรยากาศในร้านค่อนข้างอับ โชคดีที่ได้แสงอาทิตย์ส่องผ่านกระจกใสหน้าร้าน ทำให้คลายความอึมครึมนั้นพอสมควร คลากมองดูเป้าหมายพลางตรงเข้าไปนั่งยังเบาะยาวฝั่งตรงข้ามของโต๊ะชายผู้นั้นอย่างรวดเร็ว
"สวัสดียามเช้าบรู๊ซ"
ผู้ถูกเอ่ยนามลดหนังสือพิมพืในมือลง พลางใช้นัยน์ตาสีฟ้ามองชายผู้มาใหม่อย่างหงุดหงิด
"มีอะไรคลากเคน"
เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาพลางก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไป คลากทำหน้าเบ้เล้กน้อยแล้วตอบกลับ
"ก็แค่แวะมาทักทาย...ไม่ได้หรือไง"
"นายคงว่างมากสินะ ถึงได้มากวนใจฉันแต่เช้าแบบนี้ งานการไม่มีทำหรือไง"
บรู๊ซเอ่ยอย่างไม่เกรงใจในตัวชายหนุ่มตรงหน้า มิหน่ำซ้ำยังเป็นคำพูดที่ดูเหมือนไล่ด้วยซ้ำ แต่ก้ไม่ได้ทำให้คลากรู้สึกอะไร
"ก็มีนะ แต่ฉันว่าจะลาครึ่งวัน"
จะลาครึ่งวันไปเพื่ออะไร
บรู๊ซเอ่ยถามด้วยความสงสัย คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันด้วยความงุนงงปนแปลกใจ คลากไม่ตอบในทันทีก่อนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกระซิบว่า
เพื่อจะได้อยู่กับนายไง
บรู๊ซชะงัก รู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่วาบวับฉับพลันที่ใบหน้าของตัวเอง เขายกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาบดบังใบหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อพลางพูดเสียงงึมงำพึมพำไปว่า
บ้า
คลากหัวเราะร่วนเมื่อได้ยินคำสบถของชายตรงหน้า เขาล่ะชอบหยอกเจ้านี่จริงๆ เพราะเป็นคนเงียบขรึม เวลาโดนแกล้งถึงได้น่ารักแบบนี้ ทั้งสองคนไม่ได้พูดไม่ได้จาอะไรกันจนกระทั่งเสียงมือถือของคลากดังขึ้น ชายหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลล้วงหยิบมือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา พลางกดรับอย่างอารมณ์ดี
ฮัลโหล....ครับๆ...ว่าไง
บรู๊ซเหลือบมองดูการสนทนาของชายตรงหน้าเล็กน้อย คลากวางสายจากคู่สนทนาพลางเอ่ยบอก
ขอโทษทีนะ...เดี๋ยวฉันต้องไปทำงานก่อน พอดีมีงานด่วน คนที่บริษัทโทรมาตาม
จะไปไหนก็ไปสิ จะมาบอกฉันทำไม
"งั้นฉันไปล่ะ ค่ำนี้จะแวะไปหาที่บ้านนะ"
บรู๊ซเปิดหนังสือพิมพ์หน้าต่อไปราวกับไม่ใส่ใจกับคำพูดนั้น คลากยิ้มก่อนเดินออกไปจากตรงนั้นโดยไม่รู้เลยว่านัยน์ตาสีฟ้าแอบเหลือบมองตั้งแต่เขาเดินออกไปจากโต๊ะจวบจนขับรถไป
...............................
สำนักพิมพ์ Daily Planet อาคารสูงตะหง่าน ดูดีจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแค่สำนักพิมพ์หนังสือพิมพ์เท่านั้น ผู้คนพลุ่กพล่านเดินกันไปมาเพื่อปฏิบัติหน้าที่การทำงานของตน คลากเดินเข้ามาภายในอาคารด้วยความฉับไว
มีอะไรเหรอถึงได้โทรมาตามตัวด่วนขนาดนี้
คลากเอ่ยถาม หลุยส์ เพื่อนสาวคนหนึ่งขณะที่เดินเข้ามาในบริษัทโดยบังเอิญเจอเธอพอดิบพอดี
คืนนี้มีงานราตรีการกุศลที่สโมสรกราเรีย จะมีแขกคนสำคัญระดับชาติมาเยอะแยะเพื่อบิจาคทุนทรัพย์ไปพัฒนาประเทศ คิดว่าน่าทำข่าวมั้ยล่ะ"
หญิงสาวเอ่ยบอกชายหนุ่มที่ทำท่าทางครุ่นคิด
"ก็น่าสนใจดีหรอกนะ..."
"ใช่มั้ยล่ะ คืนนี้ฉันจะไปเป็นเพื่อนคุณเอง ฉันจะคอยเก็บภาพ คุณก็คอยสัมภาษณ์แขกสำคัญๆที่มาร่วมงานละกัน"
หลุยส์มัดมือชกพลางเดินชับๆออกไปจากบริเวณนั้น ปล่อยให้คลากถอนหายใจอย่างหน่ายๆแล้วค่อยๆลงไปนั่งยังเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่อย่างหน่ายใจ
คืนนี้นัดเจอบรู๊ซที่บ้านด้วยสิ เขาควรเลือกงานมากกว่าเรื่องส่วนตัวสินะ ให้ตายสิ...เวลามีความสุขมักมีมารมาผจญทุกที ชายหนุ่มรีบกดโทรศัพท์มือถือโทรไปหายังชายที่เพิ่งเจอกันเมื่อตอนสายๆ
"ฮัลโหล"
ชายแก่รับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลสมกับเป็นคนเก่าคนแก่ของตระกูลเวย์ คลากรีบถามหาบุ คคลที่ปรารถนาจะคุยด้วยทันที
"ขอสายบรู๊ซหน่อยสิครับอัลเฟรด"
"เอ๊ะ...คุณคลากเหรอครับ ตอนนี้คุณบรู๊ซไม่อยู่ เห็นว่าออกไปดูงานที่บริษัทน่ะครับ มีอะไรฝากผมไว้ก็ได้"
"ไม่เป็นไรครับ"
คลากวางสายแล้วถอนหายใจอีกครั้ง ใครจะกล้าฝาก เขาเป็นคนนัดก็ควรยกเลิกนัดด้วยตัวเองสิ ไม่งั้นน่าเกลียดตาย เอาเถอะ...ไว้ค่อยหาโอกาสบอกก็ได้ ตอนนี้รีบเคลียร์งานที่ค้างให้เสร็จก่อนดีกว่า คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็เริ่มต้นทำงานโดยไม่สนใจกับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
"คลากไปกันยัง"
เสียงหลุยส์เอ่ยถามดังมาแต่ไกล คลากวางเอกสารในมือลงบนโต๊ะ ก่อนเหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกเวลาหกโมงเย็นด้วยสีหน้าตกใจ
"เฮ้ย...นี่หกโมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย"
"อะไรกัน คุณทำงานจนไม่มีเวลาเลยเหรอเนี่ย"
หญิงสาวหัวเราะคิกคักอย่างขบขันเมื่อเห็นท่าทางของชายหนุ่มตรงหน้า คลากมองดูหลุยส์ในชุดราตรีสีม่วงยาวลากพื้น มีเหลื่อมปักระยิบระยับไปทั้งตัว เข้ากับคอขาวๆที่สวมใส่สร้อยเงินฝังเพชร ผมของเธอปล่อยยาวเป็นลอนติดกิ๊ฟดอกไม้อัญมณีสีม่วงลงตัว ที่ขาดไม่ได้ก็คงเป็นกล้องถ่ายรูปในมือ
"โอเคๆ...งั้นผมขอเสียมารยาทไปงานทั้งชุดสูทนี่เลย เกรงว่าจะเสียเวลาไปเปลี่ยนที่บ้าน"
เขาจำยอมแต่โดยดีเมื่อเห็นความเตรียมพร้อมของหญิงสาว ทีแรกว่าจะรีบร้อน แต่สปิริตของเธอทำให้เขารู้สึกกระเตื้องขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ในฐานะนักข่าวเหมือนกัน
...............................
สโมสรกราเรีย อาคารสไตล์กรีก ประดับประดาไปด้วยเสาต้นใหญ่ๆแบบคอลิเธียน ดูหรูหราฟู่ฟ่าลงตัวกับพื้นหินอ่อนสีขาวขัดเงาจนมันวับ โคมไฟสีส้มสลัวๆถูกจัดไว้ตามมุมต่างๆในห้องโถงกลางขนาดใหญ่ เว้นที่ให้ตรงกลางวางโต๊ะอาหารแบบค็อกเทล รถราคาแพงๆจอดยังหน้าอาคารสโมสรแทบทุกนาที เพื่อรับส่งบุคคลสำคัญที่มาในงานนี้ คลากอยู่ในชุดสูททำงานแม้ดูไม่หรูหราแต่ก็เรียบร้อยในฐานะนักข่าวเช่นเดียวกับหลุยส์ แม้ชุดราตรีของเธอจะงดงามแต่ก็ดูพ่ายแพ้คุณหญิงคุณนายที่แต่งตัวเว่อร์ๆมาอวดประชันโฉมในงานนี้อย่างง่ายดาย
"ฉันจะไปเก็บภาพบรรยากาศนอกงานและภายในงานนะ ส่วนคุณก็มีหน้าที่สัมภาษณ์บุคคลสำคัญที่มาร่วมงานนี้ เอาให้มากที่สุด คำถามก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ทำไมถึงได้มางานนี้ และ คิดเห็นอย่างไรกับงานนี้"
หลุยส์สั่งพลางส่งยิ้มแล้วเดินจากไปพร้อมกล้องของเธอ ในขณะที่คลากเองก็ถือเครื่องอัดเสียงไว้เช่นกัน เขาถอนหายใจปลดปล่อยความตึงเครียดพลางเริ่มทำงานทันที
นายกเทศมนตรี นักการเมือง บุคคลสำคัญ ประธานองค์การ องค์กรณ์ และ บริษัทต่างๆ มาร่วมงานอย่างคับคั่ง โชคดีที่เขาแค่อัดเสียงเฉยๆ และ คำถามก็สั้นๆง่ายๆ ทำให้ไม่นานนักเขาก็สามารถเก็บข้อมูลการสัมภาษณ์ได้เกือบ 30 คน
จนกระทั่งสายตาของเขาเหลือบไปพบกับ ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผมสีดำขลับ นัยน์ตาสีฟ้า สวมชุดสูทสีดำ ผูกหูกระต่าย เดินเข้ามาภายในงานสายกว่าปกติ หลุยส์รีบวิ่งมาแต่ไกลพลางกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ
"คลาก ไปสัมภาษณ์คุณบรู๊ซ เวย์ สิ...ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่เวย์ เอนเตอร์ไพร์ ถ้าเราได้ข่าวเขามาขึ้นหน้าหนึ่ง คงจะดีไม่ใช่น้อย... ไปกันเร็วบรู๊ซ คุณสัมภาษณ์ ฉันถ่ายรูป"
พูดจบหลุยส์ก็จูงมือเขาวิ่งเปหาบรู๊ซทันที โดยที่คลากยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไร ก่อนจะมาหยุดยังหน้าของเป้าหมาย บรู๊ซหันมามองเขาในขณะที่มือถือแก้วไวน์เอาไว้
"เอ่อ....ขอสัมภาษณ์หน่อยนะครับคุณบรู๊ซ เวย์"
คลากเอ่ยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เขาไม่ถนัดที่จะเรียกชายตรงหน้าด้วยคำสุภาพเป็นทางการเท่าไร เพราะตั้งแต่รู้จักกันมาก็พูดคุยกันปกติเป็นกันเอง ชายนัยน์ตาฟ้ามองเขาด้วยสีหน้านิ่งแล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"เชิญครับ"
หลุยส์เริ่มถ่ายรูปบรู๊วที่ยืนนิ่ง ในขณะที่คลากก็เริ่มเอ่ยคำถามสัมภาษณ์เหมือนกับคนอื่นๆ
"ทำไมคุณถึงได้มางานนี้ครับ"
"พอดีวันนี้ผมว่างน่ะ...ไม่ได้มีธุระหรือนัดอะไรไว้กับใครบางคน ก็เลยใช้เวลาให้คุ้มค่ามางานการกุศลดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ"
คำพูดดูเรียบง่ายแต่ตั้งใจประชดประชันคลากชัดๆ ชายหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เขาไม่ได้โทรไปบอกเลิกนัดบรู๊ซ...สงสัยกำลังโกรธอยู่แน่ๆ
"เอ่อ...แล้วคุณคิดยังไงกับงานนี้ครับ"
"เป็นงานที่ดีครับ ได้ประโยชน์ แล้วก็ได้บุญ มีอะไรจะถามอีกมั้ย ถ้าไม่มีผมก็ขอตัวก่อน"
พูดจบเขาก็หันหลังเดินออกไปจากบริเวณนั้น หลุยส์จึงได้เดินไปเก็บภาพบรยากาศภายในงานต่อ แต่คลากกลับหัวเสียแล้วรีบเดินตามบรู๊ซไปห่างๆ
"รอก่อนสิ"
คลากเอ่ยเรียกชายที่เดินนำไปอยางรวดเร็ว บรู๊ซได้ยินเสียงเรียกแต่ไม่สนใจพลางเดินเลี่ยงออกไปที่บริเวณระเบียงมุมอับไร้ผู้คน คลากได้โอกาสรีบตรงเข้าไปฉุดมือบรู๊ซทันที
"เดินไวจังนะ"
ซ่า!!!ไวน์ในแก้วถูกสาดใส่หน้าคลากจนเปียกชุ่ม ชายหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลชะงักเล็กน้อยเมื่อโดนจู่โจมด้วยน้ำหวาน กับ สีหน้าบูดบึ้งตึงของบรู๊ซ
"ตามมาทำไม"
บรู๊ซเอ่ยด้วยน้ำเสียงนิ่งปนโกรธ
"ฉันรู้ว่านายโกรธเรื่องที่ไม่ได้ไปตามนัด แต่มันจำเป็นจริงๆ อยู่ดีๆหลุยส์ก็โทรมาบอกว่าให้มาทำข่าวที่งานนี้ แล้วฉันก็โทรไปหานายที่บ้านเพื่อบอกเลิกนัดแล้ว แต่อัลเฟรดบอกว่านายไปดูงานที่บริษัทยังไม่กลับ ฉันก็ไม่กล้าทิ้งข้อความอะไรไว้ ว่าจะบอกด้วยปากตัวเอง แต่บังเอิญทำงานจนเพลินหันมาอีกทีก็หกโมงแล้ว ไม่มีเวลาโทรไปบอก ขอโทษจริงๆ"
คลากพยายามอธิบายสาเหตุการยกเลิกนัดด้วยสีหน้าจริงจัง แต่บรู๊ซยังคงมีท่าทีไม่พอใจอยู่
"ฉันก็อุตส่าห์รอ..."
เขาเปรยขึ้นมาเบาๆ ทำให้คลากชะงัก มองใบหน้าของชายหนุ่มนัยน์ตาฟ้าที่เง้างอนก่อนหัวเราะเบาๆในลำคอ...
"นายรอฉันเหรอ"
"รอแล้วจะทำไม นายไม่ต้องมายุ่งกับฉันหรอก เอาเวลาไปอยู่กับแม่สาวชุดม่วงเถอะ"
ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว คลากหัวเราะร่วนออกมาเมื่อบรู๊ซพูดจบ คำพูดเมื่อกี้นี้แสดงอาการหึงชัดๆ!!
"หัวเราะทำไม"
"นายหึงเหรอ"
บรู๊ซชะงักไม่ตอบ มีเพียงแต่ใบหน้าที่แดงระเรื่อเท่านั้น คลากโน้มตัวเข้าไปโอบไหล่บรู๊ซเอาไว้
"ฉันกับหลุยส์ไม่ได้เป็นอะไรกัน ขอบใจนะที่หึงฉัน"
"อะไร...ใครหึ....ง"
บรู๊ซตั้งท่าจะโวยวายแต่ก็หยุดอยู่แค่นั้นเมื่อริมฝีปากของคลากประกบเข้ากับริมฝีปากของเขาอย่างรวดเร็ว
"นายจะ...ทำอะไร..."
ชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้าเอ่ยขาดๆหายๆเพราะถูกคลากจู่โจมไม่ยอมปล่อย ริมฝีปากนั้นพยายามกดทับแน่นอย่างรุนแรงและหนักหน่วง จนบรู๊ซรู้สึกหายใจไม่ออก เขาพยายามใช้สองมือผลักร่างคลากออกไป แต่ก็ไร้ผล ชายหนุ่มตรงหน้ามีเรี่ยวแรงมากเกินกว่าที่เขาจะต้านทานไว้ ให้ตายสิ...หรือเป็นเพราะเขาที่ไร้เรี่ยวแรงกันแน่นะ
ริมฝีปากคลายออกไปประทับที่แก้มแทน ก่อนโลมเลียด้วยลเนอุ่นๆไปทั่งบริเวณใบหน้าจวบจนถึงซอกหู พลางขบเบาๆที่ติ่งหูราวกับหยอกล้อ จนบรู๊ซรู้สึกร่อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่ทันตั้งตัว คลากไล่เลียลงไปที่ซอกคอขาวๆพลางดูดแรงๆจนเกิดรอยสีชมพูจางๆ แล้วทำอย่างงนั้นจนทั่วคอและไหล่ของชายหนุ่มผู้ถูกไล่รุก
เสื้อสูทถูกแหวกออกและปลดกระดุมเป็นบางเม็ดเพื่อให้ลิ้นของคลากได้สัมผัสกับรสเนื้อนุ่มของบรู๊ซที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใน ลมหายใจของคลากที่ปลดปล่อยออกมาสัมผัสกับร่างของบรู๊ซไปทั่ว
คลากใช้มือปลดกาเกงของชายหนุ่มตรงหน้า แต่บรู๊ซไวพอที่จะห้ามปรามเอาไว้
"ไม่...นายจะทำอะไรน่ะ..."
"ทำในสิ่งที่เราทั้งคู่ต้องการน่ะสิ"
คลาดเอ่ยบอก บรู๊ซรีบโต้ตอบกลับไปทันที
"ใครต้องการ..."
"หรือนายจะปฏิเสธว่าไม่ล่ะ...ในเมื่อันออกจะโจ้งแจ้งขนาดนี้ ว่าต้องการ"
คลากพูดพลางใช้มือสัมผัสกับสิ่งๆนั้นที่อยู่ในกางเกงของบรู๋ซ บุรุษนัยน์ตาฟ้าสะดุ้งเฮือกพร้อมหน้าที่แดงระเรื่อ
"กะ...ก็...คนในงานเยอะแยะ..."
"พวกเขาไม่มาสนใจหรอกน่ อีกอย่างตรงนี้เป็นมุมอับ"
คลากพูดพลางจุมพิตไปที่สิ่งนั้นพลางยิ้มอย่างยั่วอารมณ์
"ให้ฉันสัมผัสกับความเป็นนายเถอะ"
บรู๊ซไม่ตอบคลาก แต่ชายหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลก็รับรู้คำตอบเป็นอย่างดี จึงได้ค่อยๆปลดกางเกงแล้วรูดซิบกางเกงออก พลางใช้นิ้วไล่ไปตามสิ่งนั้นอย่างอ่อนโยน ก่อนจะจับไว้แล้วรูดขึ้นลงเบาๆ บรู๊ซสะดุ้งเฮือกเล็กน้อย มือพยายามดันตัวคลากออกด้วยความเขินอาย แต่ทว่า คลากกลับกอดบรู๊ซเอาไว้แน่นด้วยมือข้างทีเหลือ
"อย่าดิ้นสิ..."
ดูเหมือนคำสั่งง่ายๆจะทำให้บรู๊ซยอมทำตามแต่โดยดีด้วย เขาลดมือที่ผลักดันคลากลง
"กอดฉันเอาไวว้"
บรู๊ซหน้าแดงวาบแต่ก็จำใจจำยอมกอดคลากเอาไว้
"ดีมากค่อยน่ารักหน่อย"
คลากเอ่ยชมพลางรูดสิ่งนั้นของบรู๊ซขึ้นลงเร็วขึ้นๆตามจังหวะที่ควรจะเป็นไป บรู๊ซกอดคลากแน่นขึ้นๆเรื่อยๆพลางหายใจหอบอย่างรุนแรง
"อึ่ก......อือออ"
เสียงครางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยควมรู้สึกยิ่งปลุกอารมณ์คลากให้พลุ่งพล่าน ชายหนุ่มนัยน์ตาสีน้ำตาลยิ่งรูดสิ่งนั้นขึ้นลงอย่างเร็วจนบรู๊ซแทบตัวโยนไปตามจังหวะรุกที่หนักหน่วงนั้น น้ำใสๆไหลหล่อลื่นออกมาตลอดเวลาจนชุ่มมือของคลาก แต่นั่นก็ทำให้คลากมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก เมื่อรู้ว่าบรู๊ซรู้สึกกับเขาไปด้วย
คลากใช้ลิ้นโลมเลียที่ใบหูของบรู๊ซอีกครั้งในขณะที่มือนั้นยิ่งรุกไล่เร็วขึ้น
"อ่ะ...อา....."
บรู๊ซครางออกมาอย่างห้ามใจไม่ได้ มือสองข้างกอดรัดคลากไว้แน่นขึ้นๆ เล็บคมๆจิกลงไปที่แผ่นหลังของคลากอย่างแรงเพื่อระบายความรู้สึกออกมาแทนเสียงที่ควรจะดังกว่านี้ ก่อนที่บรู๊ซจะสะดุ้งแล้วเกร็งตัวปล่อยน้ำสีขาวข้นออกมาจนเปื้อนเปรอะฝ่ามือของคลาก อีกทั้งยังไหลหยดตามพื้นด้วย บรู๊ซกอดคลากไว้แนบแน่นค่อยๆผ่อนจังหวะหายใจช้าๆอย่างเป็นสุขกับความเหนื่อยนั้น คลากยิ้มแล้วใช้ลิ้นเลียน้ำเมือกสีขาวที่เปื้อนเปรอะมือนั้นจนหมดก่อนจูบบรู๊ซอีกครั้งพลางกระซิบข้างหู
"สาบานว่าฉันจะไม่ทำอย่างนี้กับใครนอกจากนาย"
บรู๊ซไม่ตอบอะไรเพียงแต่มือยังโอบกอดคลากเอาไว้แน่นเช่นเดิม
"นายไม่เชื่อหรือไง..."
"ปะ...เปล่า"
บรู๊ซยอมปริปากด้วยใบหน้าที่เขินอายอยู่ตลอดเวลา
"ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะไม่ทำอย่างนี้กับใคร"
บรู๊ซเอ่ยด้วยน้ำเสียงเง้างอน สักพักก็หันมายิ้มให้กับคลากที่ทำหน้าเศร้าเล็กน้อยเพราะถูกหาว่าโกหก ก่อนกระซิบข้างหูเขา
"แต่ฉันก็จะสาบานว่า จะไห้ใครอื่นทำนอกจากให้นายทำแค่คนเดียวเท่านั้น"
คลากหัวเราะพลางขยี้ผมบรู๊ซเบาๆอย่างเอ็นดู
"เจ้าบ้าเอ้ย....งั้นก็สาบานทั้งคู่ละกัน"
"อืม"
บรู๊ซตอบรับ คลากจึงได้ก้มลงไปจุมพิตที่ริมฝีปากบรู๊ซแผ่วเบา....สายลมโชยพัดผ่านร่างของชายหนุ่มสองคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงมนต์ของความรักที่ไม่อาจหักห้ามใจได้ แม้จะเป็นเรื่องไม่ควรแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นความผิด ความรักของเขาทั้คู่จะดำเนินต่อไปตราบเท่านาน
( จบ )
ปล. หลุยส์บ่นพึมพำพลางมองกล้องในมือของตัวเอง "เฮ้อ...ได้ข่าวใหม่แล้วสิ"